ชื่อเรื่อง:พฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(กรณีศึกษา
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปราจีนกัลยาณี
อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี)
ผู้วิจัย :นางสาวชัชชญา จอมคำสิง
หน่วยงาน:กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนปราจีนกัลยาณี
ปีการศึกษา:2561
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
ระดับดัชนีมวลกาย ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการบริโภค และความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการบริโภคอาหารกับสุขภาพของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่
5 โรงเรียนปราจีนกัลยาณี จังหวัดปราจีนบุรี
เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปราจีนกัลยาณี
จำนวน 212 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ได้แก่
แบบสอบถามพฤติกรรมการบริโภคอาหาร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย
พบว่า
1.
พฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปราจีนกัลยาณี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X = 3.55,
S.D. = 0.53) หากพิจารณาพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่อยู่ในระดับมากที่สุด
คือ ใส่ผงชูรสหรือผงปรุงแต่งรสอาหาร ลงในอาหารที่ปรุง(X = 5.00,
S.D. = 0.00) รองลงมาคือการดื่มน้ำอัดลม(X = 4.93,
S.D. = 0.28) รับประทานตรงต่อเวลา(X
= 4.92, S.D. = 0.30) และรับประทานอาหารแบบที่ชอบซ้ำๆ(X = 4.67, S.D. = 0.58) พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่อยู่ในระดับมาก
คือ กินอาหารหวานจัด/เค็มจัด/มันจัด(X = 4.33, S.D. = 0.60) รองลงมาคือ
เลือกซื้ออาหารโดยพิจารณาความสะอาดของร้านและผู้ขายมากกว่าความอร่อย(X =
4.22, S.D. = 0.62)และมักเติมน้ำปลา / น้ำตาล
ลงในอาหารที่รับประทาน(X = 4.20, S.D. = 0.77) พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่อยู่ในระดับพอใช้ คือ
รับประทานอาหารมื้อเย็นหลังเวลา 20.00 น. (X = 3.35, S.D. = 0.58)รองลงมาคือ รับประทานผักและผลไม้ตามฤดูกาลทุกมื้ออาหาร(X
= 3.10, S.D. = 0.72) และดื่มน้ำสะอาดวันละ 6 - 8 แก้ว (X =
2.90, S.D. = 0.76)ส่วนพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่อยู่ในระดับน้อยที่สุด
คือ รับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ(X = 1.35, S.D. = 0.58)รองลงมาคือนับจำนวนแคลอรี่อาหารให้เหมาะสมแก่การบริโภค(X
= 1.06, S.D. = 0.23)
2. ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการบริโภคนักเรียนที่มีสถานภาพทางเพศแผนการเรียนรายได้ต่อวัน
และค่าดัชนีมวลกายต่างกัน มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่แตกต่างกัน
ข้อเสนอแนะจากการศึกษาในครั้งนี้
คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการอาหารผ่านสื่อ เพื่อให้เลือกอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายและลดการบริโภคอาหารที่จะเกิดโทษแก่ร่างกาย |